คุณอาจยังไม่รู้ว่า ที่จริงตอนนี้ระบบเครือข่าย Blockchain ของ Ethereum ยังอยู่ภายใต้การโดนโจมตีอยู่
อันทีจริงระบบ Blockchain ของ Ethereum นั้นโดนโจมตีมากว่า 2 สัปดาห์แล้ว โดยลักษณะการโจมตีคือ มีการสร้างรายการ (Transaction) ขนาดเล็ก จำนวนมากๆ วิ่งบน Blockchain จึงทำให้ระบบการรับส่งรายการอื่นๆ ไม่สามารถรับส่งกันได้ หรือล่าช้าไป ซึ่งในการเริ่มการโจมตีครั้งแรก ได้มีข้อความลึกลับเป็นภาษาเยอรมนี ว่า " Go Home " ให้กับทีมพัฒนา Devcon2 เมื่อช่วงการประชุมใหญ่ของทีมพัฒนาระบบ โดยส่งผ่านการสร้างรายการ transaction ด้วยวิธี payload
ซึ่งหลังจากนั้นระบบก็เต็มไปด้วยรายการ Transaction ขนาดเล็กจำนวนมาก ซึ่งก็จะทำให้ระบบการติดต่อระหว่างโนดช้า ถึงแม้ว่าได้รับการแก้ไขในบางจุด แต่กลุ่มที่โจมตีเองก็หาช่องโว่ของระบบและก็ยังโจมตีอยู่ และต้องการให้เพิ่มระดับเป็นการโจมตีระบบจนล่มไปเลย (DoS)
Péter Szilágyi ผู้ที่ดูแลระบบการทำงานของ Geth กล่าวว่า เนื่องจากฐานข้อมูลของระบบของ Ethereum นับวันนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้น และเติบโตเร็วมาก อาจจะมากกว่าบิทคอยน์ด้วยซ้ำ ซึ่งเราก็ไม่คาดว่าผู้ที่ไม่ประสงค์ดีจะใช้จุดนี้ในการโจมตีระบบ แต่การโจมตีก็ยังไม่ได้ทำให้ฐานข้อมูล Geth เสียหาย
แต่ทุกครั้งที่มีการแก้ไขโดยการอัพเดท Geth เหล่าผู้ที่โจมตีก็ยังเจาะหาช่องโหว่ได้ตลอด จึงยังไม่สามารถแก้ไขหรือกำจัดคนที่โจมตีนี้ไม่ได้สักที แน่นอนการโจมตีต้องมีค่าใช้จ่าย ซึ่งในการโจมตีครั้งล่าสุดได้มีการประมาณค่าใช้จ่ายราวๆ ไม่น้อยกว่า 3,000 ETH
นาย Ali มองว่า ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งที่เป็นสาเหตุให้ระบบ Ethereum โดนโจมตีเพราะ มีการเปิดเสรีในระบบมากเกินไป จนทำให้ใครๆ ก็สามารถสร้างอะไรต่างๆ บนระบบได้มากเกินขอบเขต หรือแม้กระทั่งการส่งรายการที่เป็นอาจจะควบคุมคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้บางคน
แต่ทว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยสะทกสะท้านกับปัญหาที่เกิด และเหล่านักพัฒนาทั้งหลายก็ยังคงทำงานสร้างโปรเจคที่ใช้งานบน Blockchain ของ Ethereum ต่อไป ส่วนการแก้ปัญหานั้นก็แก้ต่อไปเรื่อยๆ โดยนาย Szilágyi ได้ให้แนวความคิดในทำนองที่ว่าปล่อยให้โจมตีไปเรื่อยๆ และให้ต้องใช้ทุนในการโจมตีมากขึ้นเรื่อยๆ เดียวก็หยุดเอง และได้จัดตั้งหน่วยที่เรียกว่า Bounty Program ให้ช่วยตรวจสอบและรายงานช่องโหว่ของระบบ Blockchain แล้วได้บิทคอยน์เป็นรางวัล ซึ่งเขาหวังว่าวิธีการนี้จะช่วยทำให้แก้ไขได้ และทำให้ Ethereum มีความแข็งแรงขึ้นในท้ายที่สุด
ที่มาของข่าว coindesk
Sign up here with your email
ConversionConversion EmoticonEmoticon