collectcoineasy

collectcoineasy

แนวทางการเริ่มขุดเหรียญบิทคอยน์ หรือเหรียญดิจิตอลอื่นๆ ทั่วโลก

สำหรับหลายคนที่เริ่มสนใจในตัวบิทคอยน์ เพราะเห็นว่ามูลค่าการแลกเปลี่ยนมันช่างสูงเหลือเกิน ณ ตอนที่ผมกำลังเขียนอยู่นี้ก็ตกอยู่ที่ 25,200 บาท ต่อ 1 BTC ( 2 พ.ย. 59) คำถามแรกมือใหม่เลยก็คงไม่พ้นคำว่า "จะหาบิทคอยน์ได้เยอะๆ ยังไง"

ในเริ่มแรกที่ผมเข้ามาสู่วงการเงินดิจิตอลนั้น ก็งูๆ ปลาๆ เหมือนกับทุกคนครับ พยายามหาข้อมูลว่าบิทคอยน์ หรือ เงินดิจิตอล มันคือ อะไร ทำไมมันถึงมีมูลค่ามากขนาดนั้น และแน่นอน ผมก็ตกอยู่ใต้คำถามเดียวกัน "จะหาบิทคอยน์ได้เยอะๆ ยังไง" ผมจะสรุป สั้นๆ ในส่วนสำคัญที่ควรรู้อีกครั้งให้กับเพื่อนที่เข้ามาอ่านเลยล่ะกันว่า บิทคอยน์ (Bitcoin ตัวย่อ BTC ) เป็นเงินดิจิตอลที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก เพราะเป็นเงินที่ไม่มีตัวกลาง มันเชื่อมต่อกันโดยตรงระหว่างผู้ใช้งานแบบ P2P บนระบบ Blockchain ถือว่าเป็นสกุลเงินดิจิตอลหลัก ณ เวลานี้ ที่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้เกือบทุกสกุลทั่วโลก  หน่วยของบิทคอยน์จะเรียกว่า "BTC" ตามคำย่อของชื่อมันก็ได้ หรือกรณีที่เรามีบิทคอยน์แต่ไม่เต็ม 1 BTC ก็สามารถเรียกว่า "ซาโตชิ" ก็ได้ โดย

1 BTC = 100,000,000 ซาโตชิ หรือ
0.00000001 BTC = 1 ซาโตชิ

เห็นมีหลายคนงงกับหน่วยของมัน และมีคนมาถามผมเรื่องทำงานในอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับบิทคอยน์ว่า "งานสบาย รายได้ดี ทำงานแค่วันล่ะ 2-3 ชม. ทำผ่านโทรศัพท์ก็ได้ รายได้วันล่ะ 3,000-5,000 " ตามด้วยรูปโปรไฟล์สวยๆ ก็หลงไปสมัครและแถมยังเสียเงินค่าสมัครอีกด้วย สุดท้ายก็แค่งานคลิ๊กโฆษณา คลิ๊กรับบิทคอยน์ฟรี และรับเป็นบิทคอยน์ และยอด 3,000-5,000 ที่โฆษณากันก็เป็นหน่วย "ซาโตชิ" นะครับ ไม่ใช่หน่วย "บาท" ท่านที่เจอก็ควรวิเคราะห์ก่อนนะครับ ไม่ใช่เห็นโฆษณาว่า "งานสบาย รายได้ดี" ก็กระโจนใส่เลย ไม่งั้นจะตกเป็นเหยื่อเอาง่ายๆ กดรับบิทฟรีของผมก็มี ไม่ต้องเสียเงินอะไรเลย ตรงแถบเมนู "แจกบิทคอยน์ฟรี" ก็มีให้เลือกกดถมถืด

และเหรียญอื่นที่เกิดหลังจากบิทคอยน์เราจะเรียกเหรียญกลุ่มนี้ว่า Altcoin (ย่อมาจาก Alternate cryptocurrency coin) เช่น ETH, LTC, DOGE ฯลฯ

แล้วเราจะหาบิทคอยน์เยอะๆ ได้ยังไง

เป็นไปตามธรรมชาติ เมื่อมีเงิน ก็ต้องมีกระเป๋าไว้เก็บเงิน บิทคอยน์เองก็มีกระเป๋าบิทคอยน์ หรือ BTC wallet เอาไว้เก็บและรับ-ส่งบิทคอยน์ โดยจะใช้โค้ดที่เป็นตัวหนังสือยาวๆ (Address) ที่สร้างจากกระเป๋ามาใช้รับบิทคอยน์  ส่วน การส่งบิทคอยน์ เราก็ต้องมี Address ของคนรับในการส่งบิทคอยน์ไปให้

กระเป๋าบิทฯ มีทั้งแบบใช้งานบนเว็บไซต์ และแบบติดตั้งลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถเข้าไปเลือกได้ที่นี่เลย bitcoin.org กระเป๋าบิทคอยน์บนเว็บที่นิยมก็มี Blockchain เพราะเราสามารถตรวจสอบรายการ การรับ-ส่งบิทคอยน์ได้ โดยนำ TXID มาค้นได้ที่เว็บ blockchain

ตัวอย่างกระเป๋าบิทคอยน์ใช้งานบนเว็บ จากตลาดbx เราสามารถใช้โค้ดนี้ รับ-ส่งบิทคอยน์ได้ทุกที่ทั่วโลก การส่งบิทคอยน์นั้นจะต้องมีการจ่ายค่าธรรมเนียม ซึ่งแต่ล่ะเว็บจะกำหนดไว้แตกต่างกัน หรือถ้าเป็นกระเป๋าแบบติดตั้งลงเครื่อง ก็สามารถกำหนดค่าธรรมเนียมเองได้ โดยยิ่งกำหนดค่าธรรมเนียมถูก การส่งบิทคอยน์ออกไปให้ผู้รับ ก็จะได้รับบิทคอยน์ช้าหรืออาจไม่ได้รับ
%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b9%8b%e0%b8%b2-bx

บิทคอยน์ หาได้มาจาก 3 วิธีหลัก

  1. กดรับฟรี 
  2. ขุด ( Mine )
  3. ซื้อโดยตรงจากผู้ที่ขาย

วิธีการเพิ่มจำนวนบิทคอยน์ให้ได้มากๆ

  1. กดรับฟรีรัวๆ และหาคนช่วยกด
  2. ขุดแล้วขาย ขุดแล้วขาย ทำซ้ำๆ
  3. ซื้อบิทคอยน์และเก็งกำไรจากราคาส่วนต่าง (ซื้อถูกขายแพง) หรืออาจจะซื้อเหรียญอื่นก็ได้ ถ้ามันมีแนวโน้มว่าได้กำไร หรือเทรดบิทคอยน์ฟิวเจอร์
  4. จากวิธีข้อที่ 1-3 ผมไม่ได้กวนนะครับ แต่ผมก็ทำอย่างนั้นมาเรื่อยๆ มันก็ได้นะเออ ตามคอนเซ็ปของเว็บ collectcoineasy
ในช่วงแรกผมก็ทำจากข้อ 1- 3 จนได้ทุนจำนวนหนึ่งหลังๆ จึงมาเน้นทำข้อ 3 ไปข้อ 1 แทน เพราะได้มากกว่า และสบายกว่า ทีนี้สำหรับ คนที่จะขุด มันมีเรื่องที่เราต้องรู้ก่อนทำการขุด ซึ่งผมจะทำไว้เป็นแนวทางเพื่อให้ทุกคนได้มีหลักสืบค้นต่อยอด โดยมันเป็นสิ่งที่คุณจะต้องรู้ในสายขุดไม่ว่าจะขุดเหรียญอะไรก็ตาม โปรดระลึกไว้เสมอ การลงทุนย่อมมีต้นทุน โดยเริ่มจาก เวลา, ความทุ่มเท, ความตั้งใจ, ความอดทน, การวิเคราะห์ศึกษา และ เงิน  ภาพจาก coindesk
ภาพจาก coindesk

แนวทางการขุดเหรียญดิจิตอล เพื่อนำมาพิจารณากำไร/ขาดทุน ระยะเวลาการคืนทุน

1. ขุดเหรียญอะไร

  • พิจารณาจากราคาเหรียญ เทียบราคาย้อนหลัง และคาดการณ์ราคาในอนาคต
  • ความน่าเชื่อถือ ความนิยม
  • ปริมาณการซื้อขายในตลาดที่เราจะขาย คงไม่มีประโยชน์ ถ้าขุดมาแล้ว ไม่มีคนซื้อ
  • ค่าความยากในการขุด คือแรงขุดโดยรวมในระบบ ( ค่า Difficulty หรือที่เรียกกันว่าค่าดิฟ ) ยิ่งมากยิ่งขุดยากขึ้น หรือขุดได้น้อยลง เมื่อแรงขุดเท่าเดิม เหรียญยิ่งมีคนขุดเยอะ ก็ยิ่งมีค่าดิฟเยอะ ยิ่งแรงขุดมากขึ้น ค่าดิฟก็จะเพิ่มเป็นเงาตามตัว

2. ดู Algorithm ของเหรียญ

  • ให้ดู algorithm ของเหรียญที่ต้องการขุด เช่น sha-256, scrypt, x11, Ethash, Equihash ฯลฯ
  • หลายๆ เหรียญอาจมี Algo. เหมือนเดียวกัน นั่นคือ 1 อุปกรณอาจขุดได้หลายเหรียญ ซึ่งหมายความว่าช่วงนี้ขุดเหรียญนี้ไม่ค่อยได้กำไร ก็อาจมาขุดเหรียญอื่นไปก่อน

3. เมื่อรู้ Algo. แล้วก็มาดูว่าใช้อุปกรณ์อะไรขุด

  • GPU
  • CPU
  • HDD
  • Asic miner

4. พิจารณาความเสี่ยงจาก

  • ต้นทุนเครื่องขุด หรือ อุปกรณ์การขุด ยิ่งแรง ยิ่งลงทุนสูง แต่ก็ได้เยอะ
  • ค่าไฟฟ้า กรณีที่ rig ขุดขนาดใหญ่ หรือจำนวนเยอะ ต้องเดินสายไฟให้เหมาะสมปลอดภัย
  • ค่าบำรุงรักษาเครื่อง การปรับปรุงพื้นที่ที่จะขุดให้เหมาะสม
  • ไฟไหม้ จากความร้อน หรือไฟฟ้าลัดวงจร
  • ความยาก/ง่าย ในการนำเครื่องขุดมาขายทอดตลาดกรณีเลิกขุดแล้ว
  • กรณีขุด Cloud mining ความน่าเชื่อถือของเว็บเป็นสิ่งสำคัญ (การโฆษณาเกินจริง พวกที่ระบุรายได้ตายตัว ส่วนมากจะหลอก ซึ่งผมก็เคยโดนมาแล้ว จึงอยากเตือนไว้)
  • กรณีที่ขายแรงขุดให้เว็บเช่า เช่น nicehash ก็ถือว่ามีความน่าเชือถือมากที่สุด ณ เวลานี้นะ หรือจะเช่าแรงขุดก็ต้องไปดูตั้งแต่ข้อที่ 1 เพื่อพิจารณากำไร/ขาดทุนด้วย
  • เวลา เพราะการขุดต้องใช้เวลาอาจจะ 1 ชม., วัน, สัปดาห์, เดือน หรือ ปี เพื่อที่จะได้กำไร
  • ความผันผวนของราคาแลกเปลี่ยน ทั้งของบิทคอยน์ และของเหรียญที่เราขุด

สำหรับสายเทรดหรือเก็งกำไร มีข้อที่ต้องศึกษาเพื่อบริหารกำไร/ขาดทุน คือ

  • ความผันผวนของราคาแลกเปลี่ยน
  • ความน่าเชื่อถือของเหรียญที่ซื้อขาย ความนิยม
  • ปริมาณการซื้อขาย
เพื่อนๆ ก็ลองพิจารณาจากตัวเองนะครับว่าจะลงทุนในแนวไหนบ้าง
สุดท้ายก็อยากฝากไว้นะครับ "การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดศึกษาให้ดีก่อนลงทุน"  
และการลงทุนที่ดีที่สุดคือ การลงทุนในความรู้นะครับ 
Previous
Next Post »