ในปัจจุบันการลงทุนในตลาด Cryptocurrency มีหลากหลาย เช่น การกดรับฟรี การขุด การเทรด การปล่อยกู้ ซึ่งแต่ล่ะแบบการลงทุนก็มีความเสี่ยง และรายได้ที่ไม่เท่ากัน

ซึ่งผมคิดว่าโดยส่วนมากคนที่เข้ามาในวงการนี้ น่าจะเริ่มจากการขุดโดยเสียส่วนใหญ่ แล้วจากนั้นค่อยๆ ศึกษาไปแนวอื่นๆ เพิ่มเติม แน่นอนสายขุดย่อมรู้ดีว่า ความเสี่ยงจากค่า diff ที่เพิ่มย่อมมีผลต่อรายได้แน่นอน โดยเฉพาะถ้าอัตราการแลกเปลี่ยนของบิทคอยน์ไม่ได้วิ่งตามค่าดิฟ ก็อาจทำให้รายได้จากการขุดลดลงไปได้เยอะเลย ก็เป็นธรรมดานะครับ การลงทุนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะคิดว่าเอาเงินมาวาง แล้วรอให้มันงอกผลตอบแทนให้เรา ถ้าอยากได้ผลตอบแทนเยอะ เราก็ต้องทำให้มากกว่าคนอื่น (ทำแบบที่ถูกต้องนะครับ)

วันนี้จะมาแนะนำวิธีการหาเหรียญที่น่าสนใจในสายเทรด หลักการง่ายๆ ในการเทรดให้ได้กำไรคือ ซื้อในราคาถูก แล้วไปขายในราคาแพง แต่!! มันไม่ง่ายตรงที่ว่า ราคาไหนล่ะที่ถูก และราคาไหนล่ะที่แพง ดังนั้น ไม่ว่ามือเก่า หรือมือใหม่ในการเทรดย่อมจะต้องการหาจุดซื้อขายที่คุ้มค่านั้นแน่นอน โดยแต่ล่ะคนก็จะมีวิธีการไม่เหมือนกัน แต่ในปัจจุบันก็มีหนังสือ หรือช่องทางในการศึกษาเกี่ยวกับการหาจุดซื้อขายเยอะแยะ ไม่ว่าจะใช้การวิเคราะห์จากอินดิเคเตอร์ต่างๆ การติดตามข่าว แต่ก็มีข้อเสียคือว่า เราต้องติดตามเฉพาะเหรียญ ซึ่งเหรียญ crypto ในตลาดมีเยอะมาก อาจทำให้เลือกไม่ถูก เหมือนกับหุ้นที่มีเยอะมาก แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าหุ้นตัวไหนกำลังจะขึ้น หรือกำลังจะลง สำหรับบทความนี้ก็จะมาแนะนำการสแกนหาเหรียญที่จะเข้าซื้อในตลาด crypto และที่เจ๋งก็คือ หลังจากที่เจอเหรียญที่เข้าเงื่อนไขแล้ว มันสามารถส่งข้อความแจ้งเตือนมาที่อีเมลล์เราให้ด้วย

เราจะใช้เว็บ Tradingview ในการสแกนหาเหรียญ ถ้าใครยังไม่มีก็สมัครก่อนนะครับ

หลังจากที่เราเข้ามาหน้าเว็บ ระบบการสแกนหาเหรียญนั้นจะเรียกว่า Cryptocurrency signal finder ซึ่งอันที่จริงเว็บ Tradingview ก็มีระบบนี้สำหรับการสแกนหาหุ้น และ forex อยู่ด้วย สำหรับคนที่สนใจก็เข้าไปดูเพิ่มเติมได้นะครับ

หลังจากเข้ามาแล้วก็จะเจอหน้านี้เลยครับ เหรียญทุกเหรียญที่ Tradingview มีข้อมูล

ทีนี้เราก็สามารถสร้างเงื่อนไขในการหาสัญญาณการซื้อหรือขาย โดยใช้อินดิเคเตอร์ต่างๆ เป็นตัวช่วยในการสแกนหา เช่น ใช้ macd, rsi, ATR, volume ฯลฯ โดยเรากำหนดค่าต่างๆ ซึ่งค่าที่เราจะกำหนดหาสัญญาณการซื้อขายนั้น นักลงทุนเองก็ต้องศึกษาเพิ่มเติมว่า สัญญาณการซื้อหรือขาย ควรที่จะมีสัญญาณจากอินดิเคเตอร์อย่างไรบ้าง จากนั้นเราก็มาปรับค่าใน Cryptocurrency signal finder เอา โดยในพื้นฐานทางเว็บ Tradingview ที่เตรียมไว้ให้ก็จะมีให้เราเลือกได้ว่าเราจะสแกนหาเหรียญด้วยการดูอะไร เช่น Overview, Perfomance, Oscillators, Trend-Following... ดังที่เราเห็นตรงด้านบนของ column แล้วเราสามารถที่จะเพิ่มเงื่อนไขได้อีก เพื่อความแม่นยำในการกรองสัญญาณ หรือเราสามารถที่จะสร้างเป็นแพทเทรินของเราเองได้เลยก็ยังได้

ผมจะยกตัวอย่างวิธีการหาเหรียญ เพื่อจะได้มองภาพกันออก โดยผมจะหาสัญญาณการซื้อเหรียญ โดยผมจะเลืิอกดูจาก Oscillators ก่อนเพราะมีเครื่องมือเยอะดี (แต่เราก็สามารถเพิ่มหรือลดภายหลังได้ครับ)

ในค่าตรงแท็บวงกลมเลข 1 เราสามารถที่จะปรับค่าใส่เงื่อนไขแต่ล่ะอินดิเคเตอร์ได้ จะให้มันมากกว่า, น้อยกว่า, อยู่ระหว่าง, ตัดกัน ฯลฯ หรือเราสามารถที่จะใช้ค่าพื้นฐานของทางเว็บเลยก็ได้ ตรงวงกลมที่เลข 2 จะมีให้เราเลือกว่าเราจะดูจากอะไร เช่น Top gainer,Overbought, Oversold ฯลฯ หรือถ้ายังไม่พอ เราสามารถที่จะเพิ่มอินดิีตัวอื่นเข้ามาก็ได้ โดยเพิ่มตรงวงกลมหมายเลข 3 แล้วเราก็ตั้งค่าใส่เงื่อนไขเลย ทีนี้เราก็จะเห็นสัญญาณการซื้อขายด้านซ้ายมือแล้ว ตรง oscillators rating เราก็คลิ๊กที่ตรงนี้เพื่อให้มันจัดกลุ่มให้เรา เราก็จะได้สัญญาณพร้อมที่จะไปซื้อแล้ว

ทีนี้ผมจะกรองสัญญาณการซื้อเอง เพราะต้องการสัญญาณที่น่าเชื่อถือมากขึ้น โดยผมจะใช้ ATR มากกว่า 14 , Macd level มากกว่า 0 , Macd signal มากกว่า 0, MOM มากกว่า 0 , RSI มากกว่า60, SMA50 อยู่ใต้ SMA20, Exchange เลือกเฉพาะ BX, Bittrex,Poloniex และ Rating แล้วใส่เงื่อนไขเข้าไป ลักษณะก็จะเป็นอย่างนี้

จะเห็นว่า เหรียญหายไปเกือบหมด เหลืออยู่แค่ไม่กี่รายการ ต่อไปก็อยู่ที่ว่าเราจะเลือกซื้อหรือเปล่า เราก็อาจจะเข้าไปดูกราฟแต่ล่ะเหรียญเพื่ิอพิจารณาการเข้าซื้ออีกทีก็ได้ โดยคลิ๊กที่ชื่อเหรียญนั้นๆ ได้เลย

ต่อไปเราต้องการที่จะสร้างการแจ้งเตือน จากรูปแบบที่เราได้สร้างเงื่อนไขนี้ไว้ เราก็ต้องเซฟก่อน โดยคลิ๊กที่วงกลมหมายเลข 2 ก่อนแล้วเลือก save as จากนั้นเราก็ตั้งชื่อ เช่น My signal to BUY

คลิ๊กที่่ปุ่มนาฬิกา เพื่อตั้งค่าการแจ้งเตือน

ทีนี้ เมื่อเหรียญ crypto ที่เข้าเงื่อนไขตามที่เราตั้งไว้ มันก็จะจะส่งอีเมลล์มาที่เรา เราก็ไม่จำเป็นต้องมาเฝ้ากราฟอีกต่อไป ขั้นตอนต่อไปก็อยู่ที่ว่าเราเองจะเข้าซื้อไหม เท่านั้นเอง บางคนอาจจะไปวิเคราะห์ต่อว่า การเคลื่อนไหวของมันจะเป็นอย่างไร เพื่อการหาจุดเข้าซื้อ หรือขาย ที่ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น