ในปัจจุบัน มีหลายคนสนใจในเรื่องการขุดเหรียญดิจิตอลกันมาก ซึ่งส่วนมากแล้วก็จะได้ยินว่าขุดบิตคอยน์ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันมีเหรียญให้ขุดได้มากมายหลายเหรียญ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า เราใช้เครื่องอะไรในการขุด โดยคนส่วนใหญ่ที่เขามาในวงการนี้ก็เพราะว่าเห็น "รายได้ดี โดยที่ไม่ต้องออกแรงทำงานมากมาย"
ด้วยก็เพราะที่เงินดิจิตอล อย่างบิทคอยน์ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานทั่วโลก ทั้งนักขุด และนักเก็งกำไร จึงทำให้ผลักดันราคาให้สูงขึ้นอย่างมาก เพียงดูจากปีนี้ปีเดียว ถ้ามีคนสมัครตลาด BX แล้วซื้อบิทคอยน์เก็บไว้เมื่อตอนต้นปี 2560 ไว้ ซึ่งราคาอยู่ราวๆ 27,xxx บาท ต่อบิทคอยน์ ถ้ามาขาย ณ วันนี้ (28 พ.ย. 60) ราคา 310,000 บาทต่อบิทคอยน์ แค่เหรียญเดียวก็หนาวแล้วนะครับ กำไรสองแสนกว่าบาทต่อหนึ่งเหรียญแต่จากที่ได้ทราบข่าวมา สำหรับผู้ที่ได้ลงทุนเกี่ยวกับเงินดิจิตอลเป็นหลัก คนต่างก็ได้รับจดหมายจากสรรพากร เรื่องการให้อธิบายที่มาที่ไปของเงินได้ ในช่วง 2-3 ปีย้อนหลัง รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวบิทคอยน์ด้วย ซึ่งหลายคนก็โดนให้ชำระภาษีย้อนหลัง รวมถึงค่าปรับ โดยมีบางคนที่โดนเรียกภาษีคืนย้อนหลังรวมกับค่าปรับเป็นหลักล้านก็ยังมี
จากกระแสดังกล่าวจึงทำให้ผู้ที่สนใจมาลงทุนในตลาด Crypto นั้นก็หวั่นใจ เพราะรายได้จากการขุดนั้น ก็ขึ้นๆ ลงๆ มาเจอการคำนวณภาษีอีก ก็ยิ่งทำให้ระยะเวลาการคืนทุน ยืดออกไปอีก สายเทรดก็น้อยใจตรงที่เวลาเสียก็ไม่ได้มาร่วมชะตากรรม พอเทรดได้กำไรก็โผล่มาซะงั้น
แน่นอนว่าคนส่วนมากนั้นมีความรู้สึกลบกับการเสียภาษี ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคิดว่า เงินที่เราจ่ายเป็นค่าภาษีไปนั้น เราไม่สามารถที่จะรู้ได้เลยว่า มันเดินทางไปไหนบ้าง พัฒนาประเทศตรงไหน ช่วยเหลือคนส่วนไหนของประเทศ หรือว่าไปอยู่.... เพราะอย่างนี้คนเลยรู้สึกไม่ค่อยอยากเสียภาษี ไม่เหมือนกับการบริจาค ที่เรารู้แล้วล่ะว่า เงินที่เราจ่ายไปนั้นไปทำนู่นนี่นั้นแน่นอน แต่ในความเป็นจริงเราก็ไม่สามารถหลีกหนีได้อยู่แล้ว ถึงอย่างไรเราก็ต้องเสียเหมือนเดิม โดยเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่มที่เราได้จ่ายไปทุกครัั้งตอนซื้อของในร้านสะดวกซื้อต่างๆ แต่กฎหมายเองก็มีช่องทางที่จะให้เราสามารถเสียภาษีน้อยลงได้ ซึ่งในเราสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ เพื่อประโยชน์ของเราเองได้
เอาล่ะมาต่อกันที่เรื่องภาษีกับบิทคอยน์กันต่อ ตามที่ทราบกันแล้วว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยนั้นยังไม่ได้รองรับบิทคอยน์เป็นเงินตรา ที่จะใช้เป็นเครื่องหมายการชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย แล้วคำถามที่ว่า
ถ้าถือครองบิทคอยน์หรือเหรียญดิจิตอลอยู่ แล้วจะต้องเสียภาษีไหม??
จากที่ผมสอบถามกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษี ได้คำตอบว่า
ณ ตอนนี้ยัง เพราะนโยบายทางภาครัฐยังไม่ชัดเจน กฎหมายวิ่งตามไม่ทันเทคโนโลยี
คำตอบสำหรับคำถามนี้ คือแต่ทำไมบางคนที่ลงทุนในบิทคอยน์ ทั้งขุดและเทรด จึงยังต้องเสียภาษี??
เพราะการคำนวณภาษีคือการนำรายได้ที่หักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนต่างๆ เรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็นำมาคำนวณภาษีตามขั้นต่างๆ ซึ่ง รายได้ที่เกิดจากการนำบิทคอยน์ หรือเหรียญดิจิตอลที่เราขุดๆ กันไปขายเป็นเงินบาท และโอนเข้าบัญชีธนาคาร มันก็คือรายได้ที่เราได้มา โดยรายได้ที่ได้จากการขุดเหรียญดิจิตอล และการเทรดนั้น จะถือว่าเป็นเงินได้ประเภทที่ 8 ตามประมวลรัษฎากรเพราะคุณขายมันเป็นเงินบาทไงล่ะ กรมสรรพากร เลยมองว่ามันคือ รายได้ ทีเกิดขึ้น ที่คุณจะต้องนำมาคำนวณภาษีด้วย
แน่นอนครับ ขุดเหรียญดิจิตอลได้แล้ว ยังไงก็ต้องขายเป็นเงินบาทแน่นอน เพราะยังไงก็ต้องจ่ายค่าไฟ แล้วอย่างประชาชนอย่างเราจะโดนเอาเปรียบเกินไปไหม เพราะราคาเหรียญก็ขึ้นๆ ลงๆ ยังจะต้องมากังวลกับภาษีอีก ทางภาครัฐเองก็ไม่ได้ที่จะขูดเลือดขูดเนื้อเรานะครับ เขาได้ให้ทางออกไว้ให้แล้ว โดยสำหรับเงินได้ประเภทที่ 8 นั้นสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 2 แบบ คืิอ หักตามจริง(ต้องมีใบเสร็จ) หรือ หักแบบเหมา 60%
เพราะกิจกรรมเกี่ยวกับเงินดิจิตอลกฎหมายยังตามไม่ทัน เลยหักได้แบบเดียวคือหักตามจริง ดังนั้นคนที่ลงทุนซื้อเครื่องขุด กรุณาเก็บใบเสร็จไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบในการยื่นภาษี เพื่อใช้เป็นตัวหักค่าใช้จ่ายด้วยนะครับ (กรณีที่กรมสรรพากรเรียก และขอเอกสารหลักฐาน) ส่วนสายเทรดก็คงต้องใช้พวกกิจกรรมต่างๆ ที่อยู่ใน Broker นั้น ตั้งแต่การโอนเงินเข้า/ออก รายการการเทรดซื้อขาย ที่อยู่ภายในช่วงปีภาษีนั้นๆ เพื่อแสดงผลกำไร/ขาดทุน
ดังนั้นแล้วปกติ เราก็มีสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เราสามารถนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่าย หรือสามารถลดหย่อนได้เพิ่มอีก เพื่อที่จะให้เราได้เสียภาษีน้อยลง และแบบถูกต้องด้วยนะครับ ซึ่งแน่นอนครับ รายละเอียดต่างๆ เยอะนิดหน่อย แต่ถ้าเราศึกษาไว้ ความรู้พวกนี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากจริงๆ รวมถึงถ้าเราได้ยื่นภาษีที่ถูกต้อง สำหรับฟรีแลนซ์ หรือคนที่ไม่มีงานประจำ ก็สามารถนำประวัติการยื่นภาษีต่างๆ พวกนี้ไปยื่นธนาคาร เพื่อทำการขอสินเชื่อได้ง่ายกว่าด้วย เพราะบางคนเป็นสายขุดโดยแท้ หรือเทรดโดยแท้ ถ้าคุณต้องการขยายกิจการของคุณ ประวัติการยื่นภาษีพวกนี้อาจมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิดก็ได้
แต่ถ้าใครไม่อยากที่จะเสียภาษี ก็ง่ายนิดเดียวครับ คือ ต้องไม่มีรายได้ 555+
สำหรับช่องทางการศึกษาค่าลดหย่อน ผมแนะนำให้อ่านหน้านี้เลยครับ เข้าใจง่ายดี https://www.itax.in.th/pedia/ค่าลดหย่อน
และสำหรับค่าใช้จ่ายจากเงินได้ ประเภทที่ 8 อ่านได้จากหน้านี้ได้เลยครับ www.itax.in.th/pedia/เงินได้ประเภทที่_8
หรือถ้าไม่อยากกดเครื่องคิดเลขเอง ก็สามารถโหลดแอพ iTAX Pro มาใช้งานได้เลยครับ
Sign up here with your email
ConversionConversion EmoticonEmoticon